PK ภาพยนตร์หนึ่งที่จะเปลี่ยนทัศนคติการสร้างหนังของคนอินเดีย

สวัสดีครับ วันนี้วันที่ 18 สิงหาคม 2558 วันนี้ผมมีประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง pk เป็นภาพยนตร์จากฝั่ง บอลลีวูด อินเดีย

เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ชื่อว่า pk (ชื่อถูกตั้งบนโลกมนุษย์) มาสำรวจโลกและได้ถูกขโมยรีโมทติดต่อยานตัวเองไป ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นโดยก็โยงการตามหารีโมทไปเข้ากับเรื่อง การเรียนรู้พฤติกรรม ความเป็นอยู่ของชาวโลก และไปถึงประเด็นเรื่อง ศาสนา ความเชื่อ ความศรัทธา โดยมีการกัดจิก ตั้งคำถามเล็กน้อย ไม่มากจนเกินไป และการควบคุมอารมณ์ของหนังทำให้เรารู้สึกสนุกไปด้วย ไม่รู้สึกตึงเครียดกับประเด็นเหล่านี้เลย

ความเข้าใจของผมกับประเทศอินเดีย นี่เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ศาสนาที่หนักแน่นมาก การนำเรื่องพวกนี้มาสร้างประเด็นที่แตกต่าง ค่อนข้างดู เอ๊ะ! ทำได้ด้วยหรอ ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ดีมาก โดยตัวหนังพยายามกัดจิกกับประเด็นทาง ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆก็ตามแต่ โดยใช้ มนุษย์ต่างดาว (ความน่าสนใจของมันอยู่ตรงนี้ครับ) เขาใช้มนุษย์ต่างดาว ซึ่งพูดถึงจักรวาลที่ไกลออกไปนำมาเป็นตัวเดินเรื่อง เข้ามาสู่โลกมนุษย์ในดินแดนที่เต็มไปด้วย การนับถือ "พระเจ้า" pk ไม่ใช่มนุษย์โลกฉะนั้น ค่าเริ่มต้นของเขา แตกต่างจากมนุษย์อย่างเราๆในทุกๆด้าน ความคิด การสื่อสาร โดยสิ่งนี้คืออีกด้านหนึ่งที่หนังพยายามจะนำมาเดินเรื่อง

ประเด็นเรื่องของศาสนา ความศรัทธา ความเชื่อ หนังเรื่องนี้สอนอะไรเราได้มาก นอกจากศาสนาหลักๆ ที่เรารู้จักกัน โดยในหนังเรื่องนี้ pk ได้พูดว่าศาสนามักมีแขนงมีบริษัทย่อย(บริษัทลูก) ย่อยไปอีกมาก จนตัว pk ถึงกับ งง มีกฏข้อห้ามที่แตกต่างกันออกไป

ตัวหนังเองไม่ได้ลบหลู่ ไม่ได้พยายามจะลบความหวัง ของผู้คนที่มีศรัทธาต่อพระเจ้าของทุกศาสนา ดั่งประโยคที่ pk ได้พูดว่า 'เมื่อยามที่ผมหิวข้าว และไม่มีข้าวกิน การวิงวอนต่อพระเจ้า ช่วยสร้างความหวังให้เราใช้ชีวิตอยู่ได้ในวันต่อไป' พระเจ้าที่เขาพูดถึง คือพระเจ้าที่อยู่ในใจของเรา ไม่ใช่พระเจ้าที่เราก้มลงต่อหน้าใครคนนึงที่พยายามหลอกลวงเราอยู่

นอกจากประเด็นเหล่านี้ที่นำมาทิ่มแทงได้สนุกแล้ว การเดินเรื่องก็เป็นอะไรที่สำคัญ จะเรียกว่าตลกแบบไม่ไร้สาระ นักแสดงหลักผมยอมรับเลยว่า ชอบคาแรกเตอร์เขามากๆ การวางตัวในหนังเรื่องนี้ก็ลงตัวเช่นกัน ผมนี่หลงรักนักแสดงอินเดียทันทีเลย และด้วยมุมกล้อง คุณภาพ สิ่งแวดล้อมต่างๆที่เราเห็นในหนังทำให้เราเรียนรู้วัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปของอินเดียได้มาก เขาพัฒนาขึ้นมากครับ หนังไม่ได้กัดจิกในเรื่องการตั้งคำถามกับศาสนาอย่างเดียวนะครับ แต่ว่ามีเรื่องของข้อห้ามและจารีต การรักกันระหว่างชนชาติ หรือศาสนาด้วย

ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ประเทศอินเดีย จะสามารถทำหนังประเภทแบบนี้ออกมาได้ดีมาก และก็นี่คือหนังอินเดียเรื่องแรกที่ผมชอบมากๆ ผมยอมรับเลยว่าเรามองเห็นแต่ว่าหนังอินเดียคงมีแต่หนังเต้น หนังบู๊ แต่นั่นก็เป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว เขาภูมิใจในเอกลักษณ์ของตนเอง การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายไปทั่วโลกแล้ว มันเป็นการประกาศให้รู้ว่า อินเดีย ไม่ใช่ประเทศที่งมงายและงมหัวอยู่กับอะไรที่มองไม่เห็น เขาตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านั้น

และผมเองก็เชื่อว่า 'ศาสนา' มีข้อดีมากสำหรับผมเอง แต่ทุกอย่างบนโลกมันเปลี่ยนไป ด้วยเทคโนโลยี หรือความคิดมนุษย์เอง ฉะนั้นศาสนากลายเป็นเครื่องมือสำหรับคนที่ไม่หวังดีได้ง่ายมาก และเมื่อเราผ่านจุดนั้นมา เราจะมองกลับไปโทษ ศาสนา ไม่ได้ครับ เราต้องถามตัวเอง ว่าเรานับถือด้วยสาเหตุอะไรและเราต้องการอะไร

ในช่วงนี้ผมทำโปรเจ็คตัวนึง ซึ่งเกี่ยวโยงกับหนังเรื่องนี้ คือเรื่อง พุทธพาณิชย์ ซึ่งผมพูดถึงในบ้านเรา ศาสนาพุทธกับคนไทย ที่อะไรๆก็เปลี่ยนไปมาก โดยเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนาเริ่มจากหายไป เหลือเพียงแต่เปลือกซึ่งวิธีการเข้าถึงเริ่มแตกต่างกันไป มีสำนัก มีลัทธิเกิดขึ้นมากมาย การจะเข้าถึงหลักและแก่นแท้กลายเป็นเข้าถึงแต่วัตถุนิยมไปแล้ว เราจะได้มันมาซึ่งกิเลส ทั้งๆที่ในพุทธศาสนาไม่ได้สอนแบบนั้นเลยสักนิด ผมเสนอโปรเจคตัวนี้ต่ออาจารย์ อาจารย์ก็แนะนำให้มาดูหนังเรื่อง pk ก็ทำให้รู้ว่า เฮ้ย! ไม่ใช่แค่บ้านเรานะ อินเดียก็มี มีความเกี่ยวโยงกันด้วย ต้องขอขอบคุณอาจารย์มากที่แนะนำให้มาดู

ซึ่งผมเองก็ถามตัวเองไปว่า เห้ย เราพลาดไปได้ยังไงเนี่ย หนังดีๆแบบนี้ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู แนะนำเลยครับมีซับไทยแล้ว ที่ผมรีวิวมาคร่าวๆจริงๆในหนังมีอะไรอีกมาก ผมหวังว่าบอลลีวูดจะมีภาพยนตร์ดีๆแบบนี้ออกมาอีก และผมจะติดตามเรื่อยๆ

ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม
สามารถติชมได้ครับ หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ

PK